Tuesday, August 27, 2013

V-Quiz : 5 หมวกสีอะไร



     คนตาบอดสวมหมวกสีอะไร?

vStudy Team.
Website :: vStudyapp.com
Twitter :: @vStudyapp

Monday, August 26, 2013

V-Quiz : 4 วงกลมพิศวง

 
     วงกลมตรงกลางของ "ภาพซ้าย" หรือ "ภาพขวา" ใหญ่กว่ากัน?!
 
 
 
 
 
 
 
 
 
     คำตอบคือ... เท่ากัน ภาพนี้เป็นภาพลวงตา ในภาพซ้าย ตาของเรามองเห็นว่าวงกลมที่ล้อมรอบมีขนาดเล็กกว่าวงกลมตรงกลาง สมองจึงประมวลผลว่าวงกลมตรงกลางมีขนาดใหญ่ ส่วนภาพขวา ตาของเรามองเห็นว่าวงกลมที่ล้อมรอบมีขนาดใหญ่กว่าวงกลมตรงกลาง สมองจึงประมวลผลว่าวงกลมตรงกลางมีขนาดเล็ก และเล็กกว่าวงกลมตรงกลางของภาพซ้ายอีกด้วย

vStudy Team.
Website :: vStudyapp.com
Twitter :: @vStudyapp

British and American English (Ep.4)


vStudy Team.
Website :: vStudyapp.com
Twitter :: @vStudyapp

Thursday, August 22, 2013

British and American English (Ep.3)


vStudy Team.
Website: vStudyapp.com
Twitter: @vStudyapp

V-Quiz : 3 การแข่งขันเบสบอล



     การแข่งขันเบสบอลระดับมัธยมปลายทั่วประเทศประจำฤดูใบไม้ผลิของทุกปี จะมีโรงเรียนมัธยมที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมแข่งขัน 32 โรงเรียน การแข่งขันเป็นระบบแพ้คัดออก

     คำถามคือ...คณะกรรมการต้องจัดให้มีการแข่งขันขึ้นกี่ครั้งจึงจะได้โรงเรียนชนะเลิศ?

vStudy Team.
Website :: vStudyapp.com
Twitter :: @vStudyapp

Tuesday, August 20, 2013

V-Quiz : 2 หนูน้อยไม้ขีดไฟ



     ท่ามกลางอากาศอันหนาวเหน็บ หนูน้อยจุดไม้ขึดไฟให้ความอบอุ่น จนเหลือไม้ขีดไฟ 6 ก้านสุดท้าย นางฟ้าเห็นแล้วเกิดความสงสาร จึงบอกว่า “หากเจ้าสามารถนำไม้ขีดไฟที่เหลืออยู่มาวางเป็นรูปสามเหลี่ยมด้านเท่าได้จำนวน 4 รูป ข้าจะเนรมิตบ้านอันแสนอบอุ่นให้กับเจ้า”

     อูย…หนาว …. ช่วยหนูน้อยด้วยค่ะ!!! 

vStudy Team.
Website :: vStudyapp.com
Twitter :: @vStudyapp

V-Quiz : 1 เทียนวันเกิด

 
  
     หลานผมจะมีอายุ 9 ขวบ เร็วๆ นี้ครับ เธอต้องการเทียน 10 เล่ม ปักบนเค้กวันเกิด แต่มีข้อแม้ว่า ต้องปักเทียนทั้งหมดเป็น 5 แถว และแต่ละแถวต้องมีเทียน 4 เล่มพอดี
 
     อ้าว…ยุ่งล่ะสิครับ!! ช่วยผมหน่อยเต๊อะ ท่านผู้อ่าน ผมจะปักเทียนอย่างไรดี?
 
vStudy Team.
Website: vStudyapp.com
Twitter: @vStudyapp

Friday, August 16, 2013

คำขวัญวันวิทยาศาสตร์ 2556


"ทันโลก ทันวิทย์ จุดประกายความคิดสูู่อาเซียน"
 
vStudy Team.
website : vStudyapp.com
facebook : http://www.facebook.com/vstudyapp
twitter : @vstudyapp

Thursday, August 15, 2013

British and American English (Ep.2)

 
vStudy Team.
Website: vStudyapp.com
Twitter: @vStudyapp

เลข 7 มากันพร้อมหน้า!!!

 
     โจทย์ข้อนี้เป็นมายากลที่ทำได้ง่ายๆ โดยใช้เครื่องคิดเลข พอพูดแบบนี้หลายๆ คนอาจจะรู้สึกคุ้นๆ กันแล้วสินะ ^0^ เริ่มจากกดเลข 12345679 ลงในเครื่องคิดเลข สังเกตว่าตัวเลขดังกล่าวข้ามเลข 8 ไป จากนั้นเลือกตัวเลขอะไรก็ได้ตั้งแต่ 1 ถึง 9 แล้วคูณกับตัวเลขข้างต้น ในที่นี้สมมติว่าเลือกเลข 7 ต่อไปลองนำเลข 9 คูณเข้าไปอีกครั้ง คำตอบที่ได้จะทำให้ท่านประหลาดใจ เพราะตัวเลขที่เลือกไว้ตอนแรก (ซึ่งก็คือเลข 7) จะพากันปรากฏออกมาอย่างพร้อมหน้ากันเลยทีเดียว
 
12345679
           x 7
= 86419753
           x 9
  = 777777777
 
     ความลับของกลนี้มาจากสมบัติการสลับที่ (Commutativity) ของการคูณนั่นเอง กล่าวคือ ในการคูณ แม้ว่าจะเปลี่ยนลำดับของตัวเลขที่นำมาคูณกัน คำตอบที่ได้ก็จะไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ยังมีความลับอีกจุดหนึ่งก็คือ 111111111 หารด้วย 9 ลงตัว นั่นคือ

111111111 / 9 = 12345679
12345679 x 9 = 111111111

     สมมติว่า ถ้าเรานำ 7 ไปคูณกับ 111111111 ก็จะได้เท่ากับ 777777777 หรือเขียนได้ว่า

12345679 x 9 x 7 = 111111111 x 7
                       = 777777777

     นั่นคือในกลดังกล่าว เราเพียงสลับที่เอา 7 มาคูณก่อน 9 เท่านั้นเอง เพราะเราทราบว่าคำตอบสุดท้ายย่อมไม่เปลี่ยนแปลง

12345679 x 7 x 9 = 86419753 x 9
                         = 777777777

     ตัวเลขที่ปรากฏออกมาระหว่างทางนั้นไม่มีรูปแบบหรือความหมายใดๆ ดังนั้นเมื่อเรานำ 9 ไปคูณ แล้วผลที่ได้ออกมาเป็นเลข 7 เรียงกันถึง 9 ตัว ไม่ว่าใครก็คงอดรู้สึกแปลกใจไม่ได้ แต่ข้อควรระวังของกลนี้คือ หากเลือกตัวเลขที่คูณเข้าไปในครั้งแรกเป็น 9 ตัวเลข 111111111 จะปรากฏขึ้นทันที แล้วความลับของกลนี้ก็อาจจะแตกได้!!!
 
     ขอบคุณข้อมูลจาก: คณิตหลุดกรอบ คนไม่ชอบก็เก่งได้

vStudy Team.
Website: vStudyapp.com
Twitter: @vStudyapp

British and American English (Ep.1)


vStudy Team.
Website: vStudyapp.com
Twitter: @vStudyapp

Friday, August 9, 2013

ทำไมเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจึงหยัก?


     หลายๆ คนคงชอบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แต่เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมเส้นบะหมี่ประเภทนี้ถึงหยัก ไม่ยึดเป็นเส้นตรงเหมือนเส้นก๋วยเตี๋ยว

     สาเหตุที่เส้นบะหมี่หยักก็เพื่อให้บรรจุลงในซองบะหมี่ได้ง่าย ถ้าสมมติว่าเส้นบะหมี่ยืดเป็นเส้นตรงเหมือนเส้นก๋วยเตี๋ยวก็จะทำให้บรรจุเส้นบะหมี่ปริมาณมากลงในซองที่มีขนาดเล็กได้ลำบาก อีกทั้งเส้นบะหมี่ที่หยักจะมีพื้นที่ที่สัมผัสกับน้ำมันตอนผัดมากขึ้น ทำให้ผัดได้อย่างทั่วถึง แม้แต่ตอนต้มบะหมี่ ถ้าพื้นที่ที่สัมผัสกับน้ำร้อนมากขึ้นเส้นบะหมี่ก็จะดูดซึมความร้อนได้มาก ระยะเวลาที่เส้นบะหมี่นุ่มจึงสั้นลง อุต๊ะ!!! แม้แต่เส้นบะหมี่ก็ยังแอบซ่อนความเป็นวิทยาศาสตร์เอาไว้หรือนี่ ช่างน่ามหัศจรรย์จริงๆ ^0^

     ขอบคุณข้อมูลจาก: เก่งวิทย์พิชิตเกรด A เล่ม 2 ฟิสิกส์และเคมี

vStudy Team.
Website: vStudyapp.com
Twitter: @vStudyapp

Thursday, August 8, 2013

ตามติดกระแส HORMONES วัยว้าวุ่น “เทสโทสเตอโรน (TESTOSTERONE) ฮอร์โมนเพศชาย”

 
     นายชัยชนะหรือวิน หนุ่มป๊อปเจ้าปัญหาแห่งโรงเรียนนาดาวบางกอก ได้ตั้งคำถามกับครูสกลในคาบเรียนวิชาชีววิทยา มาดูกันว่าวินจะได้คำตอบที่น่าพอใจจากครูสกลหรือไม่?

     วิน: ฮอร์โมนคืออะไรครับครู?

     ครูสกล: ฮอร์โมน (Hormones) ก็คือ สารเคมีที่ทำหน้าที่ส่งข้อมูลข่าวสาร ซึ่งสร้างขึ้นจากกลุ่มเซลล์ในต่อมไร้ท่อ (Endocrine Gland) แล้วส่งไปตามกระแสเลือดไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย เพื่อกระตุ้นหรือยับยั้งกระบวนการต่างๆ ในเซลล์หรืออวัยวะเป้าหมาย (Target Cell หรือ Target Organ) ทำหน้าที่ควบคุมกระบวนการต่างๆ ในร่างกายหลายอย่าง เช่น ช่วยในการเจริญเติบโต ช่วยให้มนุษย์สามารถสืบพันธุ์มีลูกหลาน เป็นต้น

     วิน: แล้วฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีหน้าที่ยังไงครับ?

     ครูสกล: ก็มีหน้าที่ทำให้เธอเป็นลูกผู้ชายอย่างในทุกวันนี้ไง

     วิน: ยังไงอ่ะครับครู? ผมไม่เข้าใจ

     ครูสกล: เอาหละ ตั้งใจฟังนะ ครูจะอธิบายให้ฟัง เทสโทสเตอโรน (Testosterone) เป็นฮอร์โมนเพศชาย มีอยู่ทั้งในเพศชายและเพศหญิง แต่ในเพศชายจะมีมากกว่า ในผู้ชายส่วนใหญ่มีการผลิตเทสโทสเตอโรนประมาณ 6-8 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ในสตรีจะผลิตฮอร์โมนตัวนี้ได้เพียง 0.5 มิลลิกรัมต่อวัน (น้อยกว่า 10 เท่าตัว)

     ครูสกล: เทสโทสเตอโรน ทำหน้าที่กระตุ้นให้เด็กชายเข้าสู่วัยหนุ่ม (Male Secondary Sex Characteristics) ทำให้อวัยวะสืบพันธุ์เพศชายทั้งภายนอกและภายในเจริญเติบโตเต็มที่ องคชาติขยายใหญ่และยาวขึ้น มีขนขึ้นที่อวัยวะเพศ รักแร้ หน้าแข้ง แขน และขา มีลูกกระเดือก ไหล่กว้าง สะโพกแคบ กล้ามเนื้อเจริญเติบโตขึ้น ทำให้สเปิร์ม (Sperm) เจริญเต็มที่ ซึ่งกระบวนการนี้เริ่มตั้งแต่เข้าสู่วัยหนุ่มไปจนตลอดชีวิต เทสโทสเทอโรนมีผลให้กระดูกยาว (Long Bone) ปิดเร็วขึ้น

     วิน: ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนยังมีหน้าที่อย่างอื่นอีกรึเปล่าครับ?

     ครูสกล: มีสิ นอกจากเทสโทสเตอโรนจะมีหน้าที่ตามที่ครูได้บอกไปแล้ว ยังมีผลทั้งทางด้านจิตใจและร่างกายอีกนะ เดี๋ยวครูจะสรุปให้เธอฟัง
     1. ทำให้มีความเป็นตัวของตัวเอง ดูแลตนเองได้ ใช้เวลากับเพื่อนมากขึ้น รับผิดชอบมากขึ้น เริ่มชอบเพื่อนหญิง
     2. เหงื่อออกมากขึ้น เหงื่อทำให้ผิวนุ่มและเย็น อาจมีกลิ่นตัว
     3. เสียงแหบ ลูกกระเดือกใหญ่ อาจทำให้มีเสียงแหบในช่วงแรก กล่องเสียงโตขึ้นเห็นเป็นลูกกระเดือกใหญ่ขึ้น
     4. กระดูกใหญ่ขึ้น ไหล่ หน้าอกใหญ่และกว้างขึ้น
     5. ผิวหนังสร้างไขมันมากขึ้น รูขุมขนใหญ่ขึ้น และบางคนเป็นสิวที่หน้า
     6. อวัยวะเพศมีการแข็งตัวตั้งแต่ยังเด็ก แต่ในวัยหนุ่มจะมีการสร้างซีเมน (Semen) ดังนั้นถ้ามีอารมณ์ทางเพศมากๆ อาจมีการขับเคลื่อนน้ำอสุจิออกมาได้ระหว่างนอนหลับเรียกว่า “ฝันเปียก (Wet Dream)”
     7. มีขนที่ใต้วงแขน หัวเหน่า ผมหนาขึ้น

     วิน: ทำไมนักกีฬานิยมนำฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมาใช้หละครับครู?

     ครูสกล: เทสโทสเทอโรนเป็นฮอร์โมนเสริมสร้าง (Anabolic hormone) ที่ทำให้มีการไหลเวียนของกระแสโลหิตดี ทำให้เนื้อเยื่อได้รับออกซิเจนและอาหารได้ดี กระตุ้นการสร้างโปรตีนช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อทำให้กล้ามเนื้อใหญ่และแข็งแรง มีผลทำให้มีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น ซึ่งนักกีฬานิยมนำมาใช้

     ครูสกล: ในปัจจุบัน ได้มีการออกกฎห้ามนำสเตรอยด์ฮอร์โมนมาใช้ในการแข่งขันกีฬา เพราะแม้ว่าสเตรอยด์ฮอร์โมนจะเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและร่างกายแข็งแรงในระยะสั้นๆ แต่จะทำให้เกิดผลเสียในระยะยาวตามมา คือจะทำให้เข้าสู่วัยผู้ใหญ่เร็ว ตัวเตี้ย หัวล้าน ตับ หัวใจ และไตถูกทำลาย และระดับของเทสโทสเทอโรนที่สูงจะไปยับยั้งการทำงานของโกนาโดโทรปินรีลิสซิงฮอร์โมน (GnRH) ที่ต่อมใต้สมองส่วนหน้าให้ลดน้อยลง ในผู้ชายทำให้เกิดการเหี่ยว (Atrophy) ของอัณฑะ เป็นหมัน มีหน้าอก และพฤติกรรมทางเพศเปลี่ยนไป ในเพศหญิงจะทำให้เสียงห้าว มีรูปร่างเหมือนผู้ชาย
  
     ขอบคุณข้อมูลจาก:                                                                                                     
vStudy Team.
Website: vStudyapp.com
Facebook: www.facebook.com/vstudyapp
Twitter: @vStudyapp

เสียงคลื่นในเปลือกหอยสังข์ แท้จริงคืออะไร?

    
 
     ถ้าวันไหนเราไปเที่ยวทะเล ลองเอาเปลือกหอยสังข์มาแนบหูดูสิ จะได้ยินเสียงคลื่นกังวานไพเพราะเลยทีเดียว แม้แต่ตอนที่อยู่บ้าน เมื่อเรานำเปลือกหอยสังข์มาแนบหูก็ยังได้ยินเสียงคลื่นอยู่ดี แต่เอ...แล้วเปลือกหอยสังข์มีเสียงคลื่นแบบนี้ได้ยังไงกันนะ?!?!?!

     จริงๆ แล้วเสียงที่เราได้ยินไม่ใช่เสียงคลื่นจากทะเล แต่เป็นคลื่นเสียงเฉพาะที่เราได้ยินจากหอยสังข์ต่างหากล่ะ


     เสียงหรือคลื่นเสียง เกิดจากการสั่นของวัตถุซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดเสียง และเคลื่อนที่ผ่านอากาศซึ่งเป็นตัวกลาง อนุภาคของอากาศจะสั่นด้วยความถี่เดียวกับความถี่ของแหล่งกำเนิด เมื่อคลื่นเสียงคลื่นที่ผ่านไปในเปลือกหอย เสียงจะสะท้อนไปมาภายในเปลือกหอย ดังนั้นเมื่อแนบหูฟังเสียง เราจึงได้ยินคลื่นเสียงที่มีลักษณะเฉพาะอยู่ตลอดเวลา

     เราอาจพบการสะท้อนของเสียงได้ในชีวิตประจำวัน เช่น เมื่อขึ้นไปบนยอดเขาและตะโกนไปยังภูเขาที่อยู่ฝั่งตรงข้าม หรือแม้แต่ขณะร้องเพลงในห้องน้ำ เราก็จะได้ยินเสียงสะท้อนอันไพเราะของเรา

     ขอบคุณข้อมูลจาก: เก่งวิทย์พิชิตเกรด A เล่ม 2 ฟิสิกส์และเคมี


vStudy Team.
Website: vStudyapp.com
Facebook: www.facebook.com/vstudyapp
Twitter: @vStudyapp

Wednesday, August 7, 2013

การศึกษาหลักสูตรนานาชาติกับความพร้อมสู่ AEC

 

     เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า "AEC" ย่อมาจาก "ASEAN Economic Community" นั่นคือการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ตอนแรกการเปิด AEC กำหนดขึ้นในวันที่ 1 มกราคม 2558 แต่ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 21 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ในเดือนพฤศจิกายน 2555 ที่ผ่านมา มีการลงมติเลื่อนกำหนดการเปิดไปเป็นวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ดูเหมือนเราจะมีเวลาเตรียมตัวกันมากขึ้นอีกนิด แต่เราจะเตรียมตัวเพื่ออะไร และเตรียมตัวอย่างไร จะมีงานทำหลังเรียนจบหรือไม่เพราะได้ยินมาว่าการแข่งขันจะยิ่งสูงขึ้น แล้วการศึกษาในหลักสูตรนานาชาติจะมีประโยชน์กับเราอย่างไร ก่อนอื่นต้องเข้าใจภูมิภาคอาเซียน และกลไกการเปิดประชาคมนี้ เพื่อจะได้เห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเรา แล้วจะได้เตรียมตัวฝึกวิทยายุทธ์กันให้พร้อม ก่อนท่องโลกกว้าง

     อาเซียน (ASEAN) เป็นภูมิภาคที่มีประชากร 600.15 ล้านคน เท่ากับ 9% ของประชากรโลกมากกว่าประชากรในสหภาพยุโรป (อียู 525 ล้านคน) หากรวมประชากรในประเทศอาเซียนกับอีก 6 ประเทศคู่เจรจา (จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์) ก็จะมีประมาณ 3,284 ล้านคน ครึ่งหนึ่งของประชากรโลกเชียวนะ การท่องเที่ยวรวมในอาเซียนมีอยู่ 90 ล้านคน การค้าระหว่างประเทศ 2.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (6 เท่าของประเทศไทย)

     ส่วนทางเงินลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ หรือ FDI (Foreign Direct Investment) ก็เข้ามาในภูมิภาคนี้ 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (คิดเป็น 60% ของประเทศจีน) มาดูจีดีพี (GDP) ของอาเซียนกันบ้าง จีดีพีเท่ากับ 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เท่ากับจีดีพีของเกาหลีใต้ เป็นอันดับ 9 ของโลก (โดยส่วนตัว ผู้เขียนชื่นชอบการวัดความสำเร็จของประเทศโดยใช้ GNH (Gross National Happiness) มากกว่า แต่ประเทศส่วนใหญ่ในโลกใช้จีดีพีในการวัด ก็เลยต้องพูดถึงเสียหน่อย)

     ดูทั้งจำนวนคน ปริมาณเงินลงทุน และการเติบโตทางเศรษฐกิจแล้ว ภูมิภาคอาเซียนนี้ต้องขอบอกว่า "ไม่ธรรมดา" ยิ่งสหรัฐอเมริกาและยุโรปมีปัญหาทางเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา ขอให้สามคำสำหรับภูมิภาคอาเซียน: คุณ-hot-มาก อาเซียนเปรียบเสมือนสาวงามที่ใครๆ ก็อยากรู้จักและสนิทสนม

     ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เดินทางมาเยือน 3 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน โดยเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศเป็นครั้งแรก หลังได้รับการเลือกตั้งเป็นสมัยที่สอง โดยเริ่มการเยือนที่ประเทศไทย การที่ประเทศไทยเป็นที่แรกก็ถือว่า "ไม่ธรรมดา" เช่นกัน เพราะรัฐบาลสหรัฐมองว่าไทยเป็นพันธมิตรที่สำคัญในการพัฒนา "แกนเอเชีย" (Asia pivot) จากนั้นก็ไปต่อที่พม่า ส่วนหนึ่งของภารกิจคือ แวะเยี่ยม นางอองซาน ซูจี เจ้าของโนเบลสาขาสันติภาพ และหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านที่เพิ่งได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้ง อันเป็นสัญลักษณ์ของการทำงานเพื่อสิทธิมนุษยชน และจบลงด้วยการเข้าร่วมการประชุมอาเซียนในประเทศกัมพูชา ทำให้เห็นภาพที่ชัดเจนว่าสหรัฐจริงจังและให้ความสำคัญกับการปรับกลยุทธ์มายังซีกโลกตะวันออก อาเซียนเป็นภูมิภาคที่ถูกจับตามอง

     ความเป็นหนึ่งเดียวในอาเซียน มิได้มีเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจเท่านั้น ในปี 2558 อาเซียนจะกลายเป็นประชาคมอาเซียน โดยมีความร่วมมือ 3 ด้านด้วยกัน ได้แก่ ASEAN Economic Community (AEC), ASEAN Political-Security Community (APSC) และ ASEAN Socio-Cultural Community (ASCC) นั่นคือความร่วมมือทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง-ความมั่นคง และสังคม-วัฒนธรรม ฟังดูคล้ายๆ แนวคิดสหภาพยุโรป ใครได้ข่าวปัญหาเศรษฐกิจในสหภาพยุโรปก็อย่าเพิ่งตกใจไป อย่างน้อยอาเซียนยังคงไม่ใช้เงินสกุลเดียวกัน ถ้าอย่างนั้นพอถึงปี 2558 แล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เกิดการลดภาษีในอาเซียนลงอย่างทันทีทันใดหรือเปล่า แรงงานจะเคลื่อนย้ายไปไหนก็ได้ใช่ไหม ใครจะเอาเงินหมุนไปที่ไหนก็ได้หรือเปล่า คำตอบคือไม่ใช่

     การเปิดเสรีในอาเซียนได้ทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปมาก่อนปี 2558 แล้ว เพราะแต่ละประเทศมีความพร้อมและความอ่อนไหวในแต่ละเรื่องแตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น เรื่องภาษีซึ่งเป็นการกีดกันทางการค้า (Tariff Barriers to Trade) หลายคนคงได้ยินว่า ในปี 2558 นั้น ภาษีการค้า (trade) ในอาเซียนจะกลายเป็น 0% อันที่จริง 6 ประเทศก่อตั้งของอาเซียน (ไทย อินโดนีเซีย บรูไน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ มาเลเซีย) ได้ทำ FTAs (Free Trade Agreements) อันมีผลทำให้ภาษีเป็น 0% มาตั้งแต่ 1 มกราคม 2553 แล้ว ดังนั้น ในปี 2558 เฉพาะประเทศสมาชิกที่เหลือจึงมีการเปลี่ยนแปลงตามมา ได้แก่ กัมพูชา, ลาว, พม่า และเวียดนามเท่านั้น

     จากการได้พูดคุยกับผู้ประกอบการ และทูตพาณิชย์ประจำประเทศต่างๆ ในอาเซียน ผู้เขียนพบว่าสิ่งที่เราควรเตรียมตัวศึกษาให้พร้อมต่อไปคือ Non-Tariff Barrier การกีดกันที่ไม่เกี่ยวกับภาษี เช่น การกำหนดโควต้า เป็นต้น นอกจากนี้ ตลาดด้านบริการ (services) ก็มีการเปิดเสรีเช่นกัน แต่เปิดเพียง 5 สาขา คือ สุขภาพ, ท่องเที่ยว, การบิน, e-ASEAN (โทรคมนาคม) และ logistics ใครจะเรียนสาขาอะไร คงพอมองเห็นภาพการเปลี่ยนแปลงในวิชาชีพของตนกันบ้างแล้ว

     จากประเด็นภาษี ทีนี้มาดูประเด็นการเคลื่อนย้ายของแรงงานกันบ้าง ใครจะได้รับผลกระทบอย่างไรมาดูต่อกันเลย ประเด็นนี้เป็นประเด็นที่คนกลัวกันมาก เพราะกลัวว่าจะเกิดการแข่งขันสูง และเสี่ยงต่อการตกงาน การเคลื่อนย้ายเสรีของแรงงานมีจริง แต่เป็นเฉพาะแรงงานมีทักษะ (professional and skilled labor) ซึ่งจำกัดอยู่แค่ไม่กี่สาขาอาชีพ ศัพท์เฉพาะที่เรียกการเคลื่อนย้ายของคนกลุ่มนี้คือ Movement of Natural Persons (MNP) ซึ่งจะหมายถึงการเคลื่อนย้ายผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ หรือพนักงานขององค์กรต่างประเทศ ที่ครอบคลุมกลุ่มคนดังต่อไปนี้ Business Visitors (คนที่เกี่ยวข้องในธุรกิจแต่ไม่ได้มองหาตำแหน่งงาน), Traders and investors (นักการค้าและนักลงทุน), Intra-corporate transferees (พนักงานในบริษัทข้ามชาติที่โยกย้ายข้ามประเทศ) และผู้ประกอบวิชาชีพที่มีทักษะ (Professionals) ในหมวดอาชีพดังนี้ แพทย์และพยาบาล ทนายความ นักบัญชี วิศวกร นักเทคโนโลยีสารสนเทศ และอื่นๆ

     ทีนี้ถ้าเราอยู่ในกลุ่มอาชีพที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ในกลุ่ม AEC ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะไปทำงานที่ไหนก็ได้ เมื่อไหรก็ได้ เราจะทำงานในประเทศอื่นๆ ได้ หากเราผ่านการคัดเลือกตามมาตรฐานในร่างข้อตกลงยอมรับร่วม (Mutual Recognition Arrangement: MRA) ที่กลุ่มประเทศอาเซียนช่วยกันกำหนดขึ้นมาเสียก่อน เช่น วุฒิการศึกษา และกฎระเบียบท้องถิ่น

     จนถึงปัจจุบันนี้อาเซียนมีการลงนามจัดทำ MRA ไปแล้ว 8 ฉบับ ได้แก่ วิชาชีพวิศวกรรม วิชาชีพพยาบาล วิชาชีพสถาปัตยกรรม วิชาชีพสำรวจ บริการท่องเที่ยว วิชาชีพแพทย์ วิชาชีพทันตแพทย์ และวิชาชีพการบัญชี

     สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจคือ การทำ MRA มิได้เป็นการเปิดเสรี แต่เป็นเพียงการอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายแรงงานมีฝีมือเท่านั้น แรงงานยังต้องปฏิบัติตามระเบียบภายในประเทศนั้นๆ อยู่ ตัวอย่างอาชีพที่มักจะถูกหยิบยกขึ้นมาอธิบายคือ แพทย์ หากแพทย์จากประเทศอื่นต้องการเข้ามาทำงานในประเทศไทย จะต้องปฏิบัติตามระเบียบของแพทยสภา เช่น ต้องมีใบประกอบโรคศิลปะ ซึ่งต้องสอบเป็นภาษาไทย หากไม่เข้าใจภาษาไทยจะสอบผ่านได้อย่างไร

     จะเห็นว่านอกจากความชำนาญทางทักษะอาชีพแล้ว ภาษาก็เป็นปัจจัยสำคัญในการทำงานในอาเซียน บรูไน มาเลเซีย อินโดนีเซีย ลาว กัมพูชา พม่า เวียดนาม ไทย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ แต่ละประเทศใช้ภาษาราชการไม่เหมือนกัน ดังนั้น ภาษาอังกฤษจึงถูกกำหนดให้เป็นภาษากลางระหว่าง 10 ประเทศนี้ การปูพื้นฐานและเตรียมความพร้อมที่ดี ทักษะทางภาษาเป็นสิ่งที่ฝึกฝนเพิ่มเติมได้ ไม่ยาก เน้นว่า...ไม่ยาก หากทำบ่อยๆ พูดบ่อยๆ อ่านบ่อยๆ เขียนบ่อยๆ ขออย่างเดียวอย่าอาย ใครที่ยังไม่มั่นใจกับทักษะตรงนี้ ขอเชิญให้ใช้โอกาสที่มีอยู่ฝึกฝนเพิ่มเติมด้วย ใครที่เก่งคล่องแล้ว ขอให้ชวนเพื่อนๆ พูดภาษาอังกฤษกัน

     อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจ อาจทำโดยให้นักศึกษานำเสนองานเป็นภาษาอังกฤษ จากการหมั่นฝึกฝนบ่อยๆ ทำให้มีความพร้อมสำหรับการทำงานในระดับนานาชาติ นอกจากภาษาอังกฤษแล้ว การเรียนรู้ภาษาที่สามด้วยก็จะดีไม่น้อย เพื่อเป็นการเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ

     นอกจากเรื่องของภาษาแล้ว สิ่งหนึ่งที่ควรให้ความสำคัญไม่แพ้กันคือ soft skills บุคลิกภาพทางอารมณ์ หรือ EQ นั่นแหละ สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญ และจำเป็นในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ผู้ประกอบการมักบ่นมาอยู่เสมอว่า เด็กจบใหม่สมัยนี้ไม่มี work attitude เป็นคนเก่ง ภาษาดี แต่ work attitude ไม่ผ่าน เช่น ไม่อดทน เลือกงาน เกี่ยงงาน ต่อรองเอาเงินเดือนสูงๆ แต่ทำงานให้ไม่เต็มที่ ไม่มีการแก้ปัญหาที่ดี ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ เป็นต้น หลายๆ เหตุการณ์พิสูจน์ให้เห็นว่า soft skills มีส่วนช่วยให้ได้งานทำ และช่วยให้ทำงานได้อย่างราบรื่น แล้วเราจะฝึกให้มี soft skills และ work attitude ที่ดีได้อย่างไร ลองทำงานกิจกรรมพิเศษที่นอกเหนือจากการเรียนดูบ้าง แบ่งเวลาให้เป็น ลองทำงานจิตอาสาทั้งในและนอกมหาวิทยาลัยดูบ้าง จะได้เข้าใจชีวิตมากขึ้น จะได้เรียนรู้ปรับบุคลิกภาพทางอารมณ์ และหากต้องทำงานกับคนต่างชาติ ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม พวกเราควรเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ สังคม วัฒนธรรม การเมืองการปกครอง และอื่นๆ ที่จำเป็น สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เช่น พูดสวัสดี ขอบคุณ ในภาษาอื่น การแต่งกายตามท้องถิ่นนั้นๆ ก็ช่วยทำให้เกิดความประทับใจได้ จงทำตัวเป็นผู้ใฝ่รู้ เปิดใจกว้าง ยอมรับความแตกต่าง เพื่อจะได้เข้าใจผู้อื่นมากขึ้น หมั่นฝึกฝนเรื่องทักษะอาชีพ ทักษะทางภาษา และทักษะบุคลิกภาพทางอารมณ์เพื่อให้อยู่ร่วมกันได้ ถ้าทำได้อย่างนี้ ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร เราก็พร้อมที่จะปรับตัวเสมอ และสามารถเบิกบานกับการทำงานและการใช้ชีวิต พวกเราเป็นกลไกสำคัญในความร่วมมือในภูมิภาคอาเซียนนี้

     ดังนั้น ความร่วมมือในอนาคตของภูมิภาคนี้จะเป็นไปอย่างไร เกิดความมั่นคง ความมั่งคั่ง และความเอื้ออาทรตามเป้าหมาย 3 เสาหลักของความร่วมมือหรือไม่ ความร่วมมือของภูมิภาคอาเซียนกับภูมิภาคอื่นๆ เป็นอย่างไร ประเด็นเหล่านี้พวกเรามีส่วนช่วยกำหนดคำตอบได้

     ขอบคุณข้อมูลจาก: Matichon Online
 
vStudy Team.
Website: vStudyapp.com
Facebook: www.facebook.com/vstudyapp
Twitter: @vStudyapp

Tuesday, August 6, 2013

ฝนดาวตก รับวันแม่!!!

 
     ช่วงคืนวันที่ 12 สิงหาคม จนถึงเช้ามืดวันที่ 13 สิงหาคม 2556 จะเกิดปรากฎการณ์ฝนดาวตก “เพอร์ซิอัส (Perseus)” หรือที่คนไทยรู้จักกันในนาม “ฝนดาวตกวันแม่” ซึ่งเป็นฝนดาวตกที่มีชื่อเสียงมากในแถบยุโรป หากในคืนวันแม่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ไม่มีเมฆฝนเป็นอุปสรรค ก็จะทำให้คนไทยได้ชมฝนดาวตกฉลองวันแม่กันอย่างชัดเจน

     ฝนดาวตกเพอร์ซิอัสมีต้นกำเนิดมาจากดาวหางสวิฟต์-ทัตเทิล (109P/Swift-Tuttle) ซึ่งเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ครั้งล่าสุดเมื่อ พ.ศ. 2535 มีคาบ 130 ปี และในปีนี้เป็นปีที่ดีสำหรับการสังเกตฝนดาวตกเพอร์ซิอัส เนื่องจากตรงกับวันขึ้น 6 และ 7 ค่ำ เดือน ซึ่งอยู่ในช่วงครึ่งแรกของข้างขึ้น ดวงจันทร์จะตกลับขอบฟ้าในขณะที่จุดกระจายขึ้นเหนือขอบฟ้า โดยจุดกระจายฝนดาวตกเพอร์ซิอัสจะอยู่บริเวณกึ่งกลางระหว่าง “กลุ่มดาวเพอร์ซิอัส (Perseus)” กับ “กลุ่มดาวแคสซิโอเปีย (Cassiopeia)” ใกล้กระจุกดาวคู่ สามารถสังเกตฝนดาวตกได้ตั้งแต่เวลาประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง แต่ยังคงมีน้อย จะสังเกตได้ดีหลังเที่ยงคืนและดีที่สุดในช่วงที่จุดกระจายอยู่สูง ซึ่งตรงกับช่วง 1-2 ชั่วโมงก่อนท้องฟ้าสว่างในเวลาเช้ามืด คาดว่ามีอัตราการตกสูงสุดถึง 60 ดวงต่อชั่วโมง

     ขอบคุณข้อมูลจาก: สมาคมดาราศาสตร์ไทย 

vStudy Team.
Website: vStudyapp.com
Facebook: www.facebook.com/vstudyapp
Twitter: @vStudyapp

Monday, August 5, 2013

เด็กไทยคว้า 2 ทอง 2 เงิน 1 ทองแดง ดาราศาสตร์โอลิมปิก





:: เด็กไทยคว้า 2 ทอง 2 เงิน 1 ทองแดง ดาราศาสตร์โอลิมปิก ::


วันนี้ (5ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ผู้แทนนักเรียนไทย 5 คน ได้เข้าร่วมการแข่งขันดาราศาสตร์ และฟิสิกส์ดาราศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ครั้งที่ 7 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ณ เมืองโวลอส ประเทศกรีซ ระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม – 5 สิงหาคมนั้น ขณะนี้การแข่งขันเสร็จสิ้นแล้ว ปรากฏว่านักเรียนไทยทั้ง 5 คน สามารถคว้ารางวัลได้ 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง โดย :

2 เหรียญทอง ได้แก่ นายศุภวิชญ์ ดวงภูเมฆ รร.มหิดลวิทยานุสรณ์ (ที่ 3 ของโลก)
และนายฆนรุจ จันทรทองดี รร.สวนกุหลาบวิทยาลัย 

2 เหรียญเงิน ได้แก่ นายณัฐวัตร โพธิ์สุวรรณ์ รร.สวนกุหลาบวิทยาลัย
และนายไชยสิทธิ์ เลิศกุลทานนท์ รร.เตรียมอุดมศึกษา 

1 เหรียญทองแดง ได้แก่ นายเจษฎา มาไกล รร.สามัคคีวิทยาคม จ.เชียงราย

โดยมีผศ.ดร.อรรุจี เหมือนวงศ์ จากม.ขอนแก่น เป็นหัวหน้าทีม,
ผศ.ดร.พิเชษฐ กิจธารา จากม.มหิดล เป็นรองหัวหน้าทีม 

อ.สถิตย์พงษ์ สุวรรณโสภณ รร.สามัคคีวิทยาคม และอ.ธนวัฒน์ ธะนะ รร.สวนกุหลาบวิทยาลัย เป็นอาจารย์สังเกตการณ์

ทั้งนี้ในการแข่งขันดาราศาสตร์และฟิสิกส์ดาราศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ครั้งที่ 7 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ณ เมืองโวลอส ประเทศกรีซ มีประเทศที่เข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 36 ประเทศ รวม 41 ทีม โดยมีอาจารย์ผู้คุมทีม 70 คน อาจารย์สังเกตการณ์ 19 คน และนักเรียน 188 คน ซึ่งคณะผู้แทนประเทศไทยจะเดินทางกลับถึงประเทศไทยในวันอังคารที่ 6 สิงหาคม 2556 เที่ยวบินที่ OS 025 ณ สนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 14.20 น.

Cr. เดลินิวส์



vStudy Team.
website :: vStudyapp.com
facebook :: www.facebook.com/vstudyapp
twitter :: @vstudyapp